วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

แฟชั่น

กระแส คัลเลอร์บล็อก 2011 แต่งตัวร้อนๆ






เพิ่มอุณหภูมิความฮอตให้สาวๆ ด้วยแฟชั่นจัดจ้านแบบ “คัลเลอร์บล็อก” แมทช์สีแรง สด แจ่ม ให้เสื้อผ้าเรียบๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป


              เติมสีสันให้ฤดูร้อนของสาวๆ จัดจ้านสดใสกับเทรนด์ “คัลเลอร์บล็อก” ซึ่ง ดีไซเนอร์ชั้นนำหลากแบรนด์ต่างหยิบเทรนด์นี้มาออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่น สปริง 2011 เหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย และสาวๆ เมืองไทยก็เริ่มสนใจเทรนด์สนุกๆ นี้กันแล้วนอกจากนี้แฟชั่นแบรนด์ต่างๆ ในบ้านเราก็ตอบรับกระแสคัลเลอร์บล็อกด้วยการออกเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ในเทรนด์นี้ ดังนั้นอีกไม่นานคงเห็นสาวๆ เมืองไทยสวมเสื้อผ้าสไตล์คัลเลอร์บล็อกกันมากขึ้น
    
         เทรนด์คัลเลอร์บล็อกอาจดูสวมยาก และไม่เหมาะกับชีวิตประจำวันแต่แท้จริงแล้วหากแมทช์สีอย่างลงตัวหรือเลือก ใช้สีที่ไม่หวือหวามากนักก็จะช่วยเพิ่มสีสันให้กับการแต่งตัวได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการอินกับคัลเลอร์บล็อกแบบไม่ดูประหลาด และแน่ใจได้ว่าสีแมทช์กันชัวร์ คือซื้อเสื้อผ้าที่เป็นแบบคัลเลอร์บล็อกมาเลย เพราะดีไซเนอร์จะแมทช์สีที่เข้ากันมาให้เสร็จสรรพโดยไม่ต้องกลัวพลาด




          ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้แมทช์ สีจัดๆ ซึ่งปกติสาวๆ อาจไม่กล้าใส่เข้าด้วยกัน รวมกันได้โดยไม่ดูแปลกประหลาด(ก็แฟชั่น!) สำหรับสาวๆ ที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ต้องการเลือกสีที่ตัวเองชอบ ต้องลองแมทช์เอง โดยเทรนด์คัลเลอร์บล็อกไม่มีกฎเกณฑ์การแมทช์สีที่ตายตัว แค่เลือกสีที่ชอบ หรือสีสวยๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างฟ้าหรือส้ม และแมทช์เสื้อผ้าในสีพวกนี้เข้าด้วยกันก็เรียบร้อย เพื่อความซี๊ดควรเลือกสีที่ตัดกันแต่ดูเข้ากันอย่าง ดำกับแดง เหลืองกับชมพู หรือลดความแรงลงมาหน่อยในส้มกับขาว ครีมกับเหลืองมัสตาร์ด เป็นต้น

         ส่วนเคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดแมทช์  คือ จับคู่ชิ้น เสื้อผ้าแบบคัลเลอร์บล็อก หรือเสื้อผ้าสีจัดๆ กับเสื้อผ้าอีกชิ้นในสีพื้น อย่าง ดำ ขาว หรือเทา โดยผสมมากกว่าสองสีขึ้นไปในเสื้อผ้าทั้งชุด และไม่จำกัดรูปแบบของเสื้อผ้า จะเป็นกางเกง กระโปรง เดรส เสื้อ ในสไตล์วินเทจ แกลมเมอร์ โมเดิร์น มินิมัลลิสต์หรือแนวไหนก็ได้ นอกจากนี้การสวมเสื้อผ้าจัดๆ กับเสื้อผ้าสีเรียบๆ จะทำให้สาวๆ ไม่ดูเหมือนเป็นแผงดินสอสี


      ไม่อย่างนั้นก็จับคู่กับแอคเซสเซอรี่สีจัดจ้าอย่างกระเป๋าหรือรองเท้าซึ่ง เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มสีสันให้เสื้อผ้าทั้งชุด ส่วนเครื่องประดับหากจัดเต็มกับชุดแล้วก็ควรใช้เครื่องประดับเรียบๆ   แต่ถ้าชุดดูเรียบไป เช่น เสื้อสีดำสวมกับกางเกงสีแดง   ก็ใช้เครื่องประดับที่มีสีสันได้
         ที่สำคัญเสื้อผ้าต้องดูเรียบเข้าไว้เพื่อความเก๋ ถ้ารุงรังหรือมีดีเทลมากไปอาจทำให้คุณดูเพี้ยน!

ตัวอย่าง การแต่งตัวคัลเลอร์บล็อก
         คลิปการแต่งตัวง่ายๆ ลุ๊คคัลเลอร์บล็อก ให้ตามเทรนด์ 2011 จาก 2 สาวลุ๊คเอเซียๆ กลุ่ม clothesencounters ที่คลิป หลายๆชิ้นของเธอ ไม่เวอร์และแพงๆ สาวไทยรับไหว



วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ความงามจากผลไม้

           ผลไม้ ผลผลิตอันน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ผู้หญิงหลายคนต่างหลงใหล และนำมารับประทานเพื่อเสริมสร้างประโยชน์ให้กับร่างกาย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า นอกจากคุณประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับแล้ว ผลไม้ยังอุดมด้วยแร่ธาตุ  วิตามินและสารอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดชื่น มีเสน่ห์สดใสเป็นที่น่าจับตามอง ที่สำคัญยังช่วยชะลอเวลาของผิวสวยๆ ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา 
          ในช่วงที่ เศรษฐกิจทั่วโลกย่ำแย่อย่างนี้  การใช้ในสิ่งใกล้ตัวแล้วไม่ต้องหยุดสวย น่าจะเป็น 2 วัตถุประสงค์ที่สาวๆ น่าจะเรียนรู้ เรามาดูกันถึงความมหัศจรรย์แห่งความงามจากผลไม้ค่ะ
  ทับทิม           ผลไม้จาก สวรรค์เป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิดใหม่  อุดมด้วยวิตามินเอ ซี และอี แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสสระ  ที่ช่วยบำรุงผิวให้สวยสดใส  เปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ แถมยังเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งการต้านการเสื่อมสภาพของผิวอีกด้วย
   มะขามป้อม  
          ถือเป็นผลไม้ ที่มีโอสถในตัว เนื่องจากมีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ  อีกทั้งคุณค่าแห่งการบำรุงเข้มข้น ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสแม้อยู่ในรูปของสารสกัด  
   ถั่วเหลือง  
          ธัญพืชที่ อุดมไปด้วยสารอาหารผิวและโปรตีน อีกทั้งยังมีไฟโตรเอสโตเจน ที่มีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง สุขภาพดี
   มะพร้าว  
          ผลไม้มากคุณ ค่าแห่งการบำรุงที่มีมาช้านาน อุดมด้วยวิตามินอีโมเลกุลเล็ก จึงซึมซาบดูแลถึงเซลล์ชั้นใน   ลดการสูญเสียโปรตีน   ช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะให้แข็งแรง  ปรับสภาพและเสริมสร้างการเจริญของเส้นผม ให้ผมเงางาม สุขภาพดีมีน้ำหนัก
   มะเฟือง 
          สมัยโบราณ นิยมนำน้ำมะเฟืองสดมาชำระล้างทำความสะอาดเส้นผม เนื่องจากในผลมะเฟืองมีแร่ธาตุที่เหมาะกับเส้นผม อีกทั้งยังมากด้วยวิตามิน ช่วยรักษาสมดุลตามธรรมชาติให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ ให้ผมนุ่ม ลื่น สะอาด ปราศจากรังแค
 
          


                       

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

3 เทคนิค เลือกเครื่องสำอางให้ปลอดภัย

จะซื้อจะใช้อย่างไรให้ปลอดภัยไร้ปัญหากับหน้าสวย ๆ เรามีคำตอบมาบอกกัน

          บรรดา เครื่องสำอางทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวกบำรุงดูแลผิวให้แข็งแรงหรือเติมสีสันสดใสบนใบหน้า ล้วนเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญของสาวๆ ใช่ไหมคะ ว่าแต่จะซื้อจะใช้อย่างไรให้ ปลอดภัยไร้ปัญหากับหน้าสวย ๆ ของเราชาว Modern Mom อานักมีเทคนิคมาฝากค่ะ

1.ทดสอบก่อนตัดสินใจ

          ก่อน ตัดสินใจยื่นบัตรเครดิตซื้อเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบำรุงผิวทั้งหลาย ไม่ควรลืมทดสอบก่อนว่าผิวเราแพ้ส่วนผสมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม วิตามิน สารเคมีในเครื่องสำอางชิ้นนั้นหรือไม่ เพราะถึงคนอื่นใช้ได้ไม่มีปัญหาแต่คุณอาจเกิดแพ้จนเกิดผื่น ผิวอักเสบ ฯลฯ ตามมาได้

Beauty Tips

          ทาเครื่องสำอางชิ้นหมายตาที่ท้องแขนทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ถ้าไม่เกิดอาการผิดปกติ เช่น คัน บวม แดง หรือมีผื่นก็น่าจะวางใจได้

          ควรลองเปลี่ยนเครื่องสำอางทีละชิ้นดีกว่าจะใช้ของใหม่พร้อม ๆ เพราะ ถ้าเกิดแพ้หรือมีปัญหาจะได้รู้ได้ง่ายว่าต้นตอมาจากไหน

          ถ้า มีของตัวอย่างหรือขนาดทดลองใช้ก็อย่าลืมเลียบเคียงกับ BA. ที่เคาน์เตอร์จะได้มาลองใช้ก่อนให้ชัวร์ว่าไม่แพ้ ยิ่งเป็นบำรุงราคาแพง ๆ ถ้าจะซื้อครั้งแรกควรเลือกไซส์เล็กก่อน จะได้มั่นใจว่าใช้ดีไม่มีปัญหากับผิวหน้า

2.ไม่ใช้ปนกับคนอื่น

          อานักไม่ได้บอกให้งกนะคะ แต่อยากจะให้ระวังเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยเวลาใช้เครื่องสำอางกันให้มากขึ้น ยิ่งเป็นเมคอัพที่สาว ๆ ขอลองสีตามเคาน์เตอร์ หรือแบ่งกันใช้กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน รู้ไหมคะมีโอกาสสูงที่คุณเองจะรับและส่งโรคติดต่อต่าง ๆ อย่างโรคเริม โรคผิวหนัง ผ่านเครื่องสำอางนี้ได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

Beauty Tips

          เวลา ไปลองเครื่องสำอางที่เคาน์เตอร์ ไม่ควรไปสัมผัสกับเครื่องสำอางโดยตรง แตะคัดตอนบัดสะอาดแตะที่เครื่องสำอาง แล้วมาทาที่หลังมือหรือท้องแขน แต่ถ้าต้องทดลองกับใบหน้าจริง ๆ ให้บอก BA.เปลี่ยนฟองน้ำหรือแปรงอันใหม่ให้ด้วยทุกครั้ง

          ไม่ ควรใช้เครื่องสำอางของคนอื่น โดยเฉพาะที่ต้องมีการสัมผัสกับผิวโดยตรง เช่น ลิปสติก แป้ง ฯลฯ เพราะถึงจะสนุกแถมประหยัดเครื่องสำอาง แต่ได้เริมมาเป็นของแถม คงไม่คุ้มแน่

3.เช็กวันหมดอายุ

          ช่วงเทคกาล Sale ทั้งหลายที่เครื่องสำอางพร้อมใจกันทั้งลดทั้งแถม นอกจากทำเอากระเป๋าฉีกแล้ว คุณยังอาจต้องมานั่งเจ็บใจถ้าเหมาซื้อมาจนใช้ไม่ทัน ในที่สุดก็ต้องทิ้งลงถังขยะไปเพราะหมดอายุ หรือบางคนกว่าจะรู้ตัวหน้าสวย ๆ ก็ยับเยินจากเครื่องสำอางที่หมดอายุนั่นเอง ต้องดูให้ละเอียดกันหน่อยละค่ะเรื่องนี้

Beauty Tips

          ก่อน ซื้อของ sale เช็กวันผลิตก่อน โดยเฉลี่ยเครื่องสำอางมีอายุหลังการผลิต (ยังไม่เปิดใช้) 5 ปี เพราะฉะนั้นซื้อแล้วต้องคำนวณด้วยว่าจะใช้หมดไหม จะได้ไม่ต้องไปตัดใจเสียดายแทบแย่ที่ต้องโยนทิ้งทีหลังเพราะหมดอายุ

          วิธี สังเกตเครื่องสำอางหมดอายุ ดูได้จากกลิ่นที่เปลี่ยนไป ส่วนผสมแยกชั้น เนื้อของเครื่องสำอางไม่เหมือนเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ต้องตัดใจทิ้งแล้วค่ะ

          หลังเปิดใช้เครื่องสำอางจะมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่ายควรรีบใช้ให้หมดภายใน 1-2 ปีค่ะ

          อย่าลืมเขียนวันเปิดใช้ครั้งแรก (ตัวเล็ก ๆ) ไว้ที่เครื่องสำอาง เพื่อเตือนความจำ และจะได้เช็กอายุเครื่องสำอางได้ง่ายขึ้นด้วย

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จุ่มลวกอย่างไรปลอดภัยจากอาหารเป็นพิษ 


เลือกอาหารมื้อสุก (คิดว่า) ปลอดภัย

          ตะวันนัดลัดดาวกินอาหาร คราวนี้ลัดดาวเลือกแนวจิ้มจุ่มลวกในตึกที่ทำงาน เพราะเห็นว่าน่าจะสด สุก และสะอาด ทั้งที่โดยธรรมชาติของลัดดาวอาจจะมีนิสัยที่ชอบอาหารเสี่ยงต่อโรคภัยเป็น ประจำอยู่แล้ว
 
          ทั้งคู่สั่งอาหารซึ่งมีทั้งเนื้อสัตว์ (ชนิดไม่ปรุงและปรุงรส) อาหารทะเล ผัก และไข่ไก่ เป็นต้น ตามปกติ แล้วบนโต๊ะก็มักจะมีช้อนตักซุปขนาดใหญ่ และกระชอนใช้สำหรับการลวกอาหาร เมื่ออาหารที่สั่งมาถึง ทั้งคู่คีบอาหารดิบใส่ลงในกระชอนแล้วจุ่มลงในน้ำซุปที่กำลังเดือด รอจนกระทั่งวัตถุดิบอาหารสุก จึงได้นำอาหารมาใส่ในชาม

          ระหว่างกินอาหารได้ใช้ตะเกียบคีบวัตถุดิบอาหารใส่ลงในกระชอนเพื่อรอให้สุก จะได้มีอาหารเติมแบบไม่สะดุด บาง ครั้งลัดดาวคีบอาหารดิบใส่ลงในกระชอน แล้วจึงใช้ตะเกียบมาคีบอาหารสุกเข้าปากอย่างไม่รู้ตัว นอกจากนี้ลัดดาวยังจุ่มอาหารที่ลวกสุกแล้วในไข่ดิบด้วย โดยเข้าใจว่าจะทำให้อาหารมีรสชาติมากยิ่งขึ้น

          หลังจากกลับบ้านลัดดาวรู้สึกถึงความไม่ปกติของในท้อง แต่ไม่เอะใจเพราะคิดว่าอาหารที่เลือกกินวันนี้สด สุก และสะอาดแล้ว จนในที่สุดกลางดึก ลัดดาวมีอาการไข้ คลื่นไส้ และถ่ายท้องหลายครั้งจนกระทั่งซูบและเพลียกับอาการอาหารเป็นพิษที่กระหน่ำ อย่างรุนแรงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

เปิบให้ปลอดภัยจากหมอซุป

          1.การกินอาหารประเภทจุ่มลวก จัด ได้ว่าเป็นทางเลือกการบริโภคในเชิงคุณภาพที่ดี กล่าวคือ อาหารหลังจากผ่านการแปรรูปให้สุกด้วยความร้อนแล้ว ก็บริโภคทันทีได้เลย จะทำให้หลีกเลี่ยงปัญหาที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาและการเน่าเสียไปได้มาก ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคสามารถประเมินความสด ความสะอาดของวัตถุดิบอาหารได้โดยตรง ณ จุดที่บริโภคด้วย

           2.กรณีความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับลัดดาว คือ การปนเปื้อนข้ามระหว่างอาหารดิบ (ที่มีจุลินทรีย์ก่อโรค) และอาหารสุก (ปลอดจุลินทรีย์ก่อโรค) ในกรณีนี้เกิดจากการที่ลัดดาวคีบอาหารดิบลงในกระชอน ตะเกียบจึงอาจจะปนเปื้อนจุลินทรีย์ก่อโรคค้างอยู่ที่ตะเกียบ แม้ว่าปลายตะเกียบอาจจะได้รับไอน้ำร้อนที่กรุ่นขึ้นมาน้ำซุปที่เดือด แต่ปริมาณความร้อนที่ได้รับนั้นน้อยเกินไป หรือปริมาณจุลินทรีย์ก่อโรคที่ปนเปื้อนมีปริมาณมากเกินความร้อนจากไอน้ำจะ ทำลายได้หมด

          ทางที่จะปลอดภัยจากจุลินทรีย์นี้ก็คือ ลวกตะเกียบก่อนจะใช้ตะเกียบคืบอาหารสุกเพื่อบริโภคก็จะปลอดภัย


 
           3. นอกจากนี้ลัดดาวยังบริโภคจุ่มลวกในแนวญี่ปุ่น โดยการจุ่มอาหารที่สุกแล้วในไข่ดิบก่อนจะบริโภค จัดว่าเป็นการเพิ่มระดับความเสี่ยงต่อการได้รับแบคทีเรียที่อาจจะมาจากไข่

          ข้อ แนะนำการจุ่มไข่ (ดิบ) จึงควรผ่านความร้อนซ้ำอีกครั้งจนกระทั่งไข่สุกก่อนการบริโภค รสชาติอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยก็ควรจะหลีกเลี่ยงค่ะ


 

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เมล็ดธัญพืชช่วยป้องกันโรคหัวใจ  



      การรับประทานอาหารเช้าที่ประกอบด้วยธัญพืชทั้งเมล็ด จะช่วยลดอัตราการตายทั้งที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และไม่เกี่ยวข้องลงได้

       เป็นข่าวดีของผู้ที่ชอบรับประทานเมล็ดธัญพืชแบบทั้งเมล็ด หรือ Whole Grain Cereals ค่ะ เนื่องจากมีผลการศึกษาของคณะวิจัยจาก Brigham and Women's Hospital and Harvard Medical School ยืนยันว่า การรับประทานเมล็ดธัญพืชแบบทั้งเมล็ด จะช่วยลดอัตราการตายจากโรคหัวใจได้

        ผลงานวิจัยชิ้นนี้เป็นการหาความสัมพันธ์ระหว่าง การรับประทานอาหารเช้าที่ผลิตด้วยธัญพืชทั้งเมล็ด เปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารเช้า ที่ผลิตด้วยเมล็ดธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว โดยติดตามเก็บข้อมูลอัตราการตายทั้งหมด และการตายอันเนื่องมาจากโรคหัวใจในกลุ่มคนเพศชาย เฉพาะที่เป็นแพทย์ จำนวนมากกว่า 86,000 คน อายุเฉลี่ยระหว่าง 40 - 84 ปี ในช่วงระยะเวลา 5 ปี 6 เดือน ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารเช้าที่ประกอบด้วยธัญพืชทั้งเมล็ด จะช่วยลดอัตราการตายทั้งที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และไม่เกี่ยวข้องลงได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น อายุ ดัชนีมวลกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และจากการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มเพศชายที่ไม่เคยรับประทาน หรือรับประทานน้อยมาก กลับกลุ่มเพศชายที่รับประทานธัญพืชเป็นประจำวันละ 1 มื้อ พบว่ากลุ่มที่รับประทานเป็นประจำมีเพียง 20% ที่พบการตายเนื่องจากโรคหัวใจ

       ฉะนั้นซีเรียลธัญพืชทั้งเมล็ดกับนมชามโตในมื้อเช้าก็ไม่เลวนะคะ…



 
 
ดื่มนมเปรี้ยวไม่ทำให้ผอม


            นมเปรี้ยวกำลังเป็นที่นิยมดื่มในหมู่สาวๆ ที่กลัวอ้วน อยากลดน้ำหนัก ทั้งพ่อแม่ก็นิยมซื้อให้ลูกดื่มด้วยเข้าใจว่ามีประโยชน์เหมือนดื่มนมสด
             แถมยังเข้าใจว่าดื่มแล้วไม่อ้วนอีกด้วย ซึ่งก็เป็นผลจากภาพโฆษณาที่ใช้นางแบบรูปร่างผอมบาง จึงชวนให้เชื่อว่าดื่มแล้วผอมเหมือนนางแบบ 


            นมเปรี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำนม มาหมักด้วยจุลินทรีย์ที่ไม่ทำให้เกิดโรค จุลินทรีย์จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และทำปฏิกิริยากับน้ำตาลแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติในน้ำนม เกิดกรดแลคติคที่มีรสเปรี้ยว ได้นมที่มีลักษณะเป็นครีมข้นๆ เรียกว่า โยเกิร์ตชนิดรสธรรมชาติ แต่ในบ้านเรานิยมเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม ผลไม้เชื่อมลงไป หรือทำให้เหลวแล้วเติมน้ำตาล และแต่งรสผลไม้เป็นนมเปรี้ยวชนิดดื่ม ซึ่งเป็นชนิดที่นิยมกันมาก

           แต่นมเปรี้ยวชนิดดื่มที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่มีนมเป็นส่วนประกอบเพียงร้อยละ 35-50 และที่สำคัญนมเปรี้ยวชนิดดื่มเหล่านี้ รวมทั้งชนิดไลท์ที่ทำมาจากนมพร่องมันเนย มีน้ำตาลผสมสูงถึงร้อยละ 8-20 สูงกว่านมหวานอย่างมาก และสูงใกล้เคียงกับน้ำอัดลมทีเดียว 



               "ดื่มนมเปรี้ยว 1 กล่อง (180 มล.) จึงได้น้ำตาล 3 ช้อนชา บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูงถึง 7 ช้อนชา ในขณะที่แนะนำให้กินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา ดื่มนมเปรี้ยววันละ 2 กล่อง จึงหมดโควตาแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยว่ายิ่งดื่มนมเปรี้ยวมาก วันละหลายกล่อง แทนที่จะผอมลง กลับน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะนมเปรี้ยวที่มีน้ำตาลสูงเหล่านี้ให้พลังงานพอๆ กับนมสดรสจืด และสูงกว่านมจืดพร่องมันเนย แต่มีโปรตีน แคลเซียม วิตามิน และแร่ธาตุอื่นเพียงครึ่งเดียว และไม่ต้องหวังว่าจะได้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิต เนื่องจากกระบวนการผลิตนมเปรี้ยวชนิดดื่มแบบยูเอชที จุลินทรีย์ตายหมดแล้ว

            จึงควรเข้าใจเสียใหม่ว่านมเปรี้ยวไม่ได้ช่วยให้ผอม คนอ้วนจึงควรดื่มนมจืดพร่องมันเนย ถ้าดื่มนมสดแล้วไม่สบายท้องหรืออยากเปลี่ยนรสชาติบ้าง ก็ให้เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือเพลนโยเกิร์ต จะดีกว่า คนที่ไม่อ้วนถ้าอยากดื่มนมเปรี้ยวให้เลือกชนิดที่มีส่วนผสมเป็นนมวัวสูง และมีน้ำตาลต่ำ




 
กินดีต้านมะเร็ง
  


         มะเร็ง โรคร้ายที่น่ากลัว แต่เราก็มีวิธีลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ หากเรารู้จักดูแลสุขภาพของเราอย่างถูกวิธี อาทิ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
        ไม่จำเป็นต้องทำอย่างหักโหม เพียงเดินเร็ว ๆ ซัก 30 นาที ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาอื่น ๆ ที่ชอบ อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
        หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ไม่ทำตัวให้เครียด และที่สำคัญที่สุดคือการรับประทานอาหารให้ถูกหลัก โดยเฉพาะอาหารประเภทผัก ผลไม้ และธัญพืช ที่อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทเกลือแร่ วิตามิน เส้นใยอาหาร สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และสารอื่น ๆ อีกมากมาย
       โดยต้องรับประทานในปริมาณมากพอควร รวมทั้งควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะเพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเกิน นอกจากนี้ เราควรกินอาหารให้มีความหลากหลายและปรุงอาหารอย่างถูกวิธี เพื่อคงคุณค่าของสารอาหารไว้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพยิ่งขึ้น
        อาหารที่มีเส้นใยสูง ปลาและอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินบางชนิด เช่น กรดโฟลิค และเกลือแร่ เช่น สังกะสี จะมีผลช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ แต่เราควรทานอาหารอย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน ไม่ต้องถึงกับเครียดจัดต้องคำนวณคุณค่าสารอาหารแต่ละมื้อ เราสามารถทานอาหารที่โปรดปรานได้บ้างเป็นบางครั้ง แต่ควรจำกัดปริมาณในการทานอาหารรสจัดด้วย


คลิปวิดิโอให้ความรู้เรื่อง สัญญาเตือนของโรคมะเร็ง